ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ข้อดี- ข้อเสีย ของ AR

ข้อดีจากการนำระบบ AR มาใช้
  1. เป็นการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบและสนใจเทคโนโลยี
  2. ผู้ใช้บริการสามารถค้นหาตำแหน่งและรายละเอียดของสินค้าที่ตนต้องการได้อย่างถูกต้องชัดเจน
  3. บริษัทสามารถสร้าง Campaign ต่างๆ เพื่อสร้างความสนใจในตัวสินค้า จึงสามารถดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
  4. เพิ่มโอกาสของการค้าทาง Internet (E-commerce) เนื่องจากการผู้ซื้อสามารถเห็นภาพจำลองของตนและสินค้าก่อนทำการสั่งซื้อสินค้า จึงเป็นการเปิดตลาดให้มีผู้ใช้บริการช่องทางนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งนี้ยังส่งผลต่อไปยังผู้ที่ต้องการลงทุนทำธุรกิจ โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนเนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเพื่อให้บริการจึงไม่ต้องเสียค่าเช่าสถานที่ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ฯลฯ
ข้อเสียจากการนำระบบ AR มาใช้
  1. ไม่เหมาะกับกลุ่มคนที่ low technology หรือกลุ่มคนที่อาจไม่ได้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมากนักเนื่องจากว่าการนำเสนอด้วยรูปแบบนี้ผู้ใช้จำเป็นต้องมีกล้อง Web Cam และเครื่องพิมพ์ในกรณีที่เป็นการ print ตัว Marker ผ่านหน้าเว็บไซต์
  2. เข้าถึงผู้บริโภคในกลุ่มที่จำกัดโดยผู้ใช้บริการต้องมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีเนื่องจากการใช้เทคโนโลยี AR ต้องอาศัยอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์หลายอย่าง
  3. การที่มีกลุ่มผู้บริโภคจำกัด ทำให้อาจไม่คุ้มกับการลงทุนของบริษัทในการวางระบบเครือข่ายต่างรวมทั้งการทำฐานข้อมูลต่างๆ เช่น การทำฐานข้อมูลของร้านค้า หรือสถานที

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลักการและวิธีการทำงานของ AR (Augmented Reality) เบื้องต้น

หลักการและวิธีการทำงานของ AR (Augmented Reality) เบื้องต้น วันนี้เราจะมาอธิบายหลักการการทำงานคร่าวๆ ของเทคโนโลยี AR โดนเริ่มจากหลักการการทำงานก่อนเลย เนื่องจาก AR นััน ต้องมีการประมวลผลภาพ เป็น2หรือ3มิติขึ้นมา ให้เข้ากับลักษณะของสภาพพื้นที่จริง ดังนั้นแล้ว การประมวลผลคร่าวๆ จะเป็นดังนี้ 1. โทรศัพท์จะต้องรับรู้การเคลื่อนไหวของเครื่องโทรศัพท์หรือ  Motion Tracking  โดยมีข้อมูลคือการเคลื่อนไหวของโทรศัพท์ในแนวแกน x, y, z เพื่อให้ซอร์ฟแวร์ รู้ว่าจะต้องประมวลผลภาพเสมือนนั้นให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเคลื่อนไหวโทรศัพท์นั่นเอง ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆคือ ถ้าจำลองแมวตัวหนึ่งขึ้นมา โดยแมวจะอยู่ห่างจากโทรศัพท์ 1 เมตรเสมอ เมื่อเราเคลื่อนโทรศัพท์ไปรอบๆแมว เราก็จะสามารถเห็นแมวในแต่ละด้านได้นั่นเอง 2. ข้อมูลกายภาพของสภาพพื้นที่จริง หรือ  Area learning  เช่น กำแพง พื้นหรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ ถ้าอธิบายตัวอย่างง่ายๆคือ จากแมวตัวเดิมในข้อ1 เราจะเห็นแมวลอยๆ ถ้าหากเรา เดินผ่านโต๊ะ แมวที่ควรจะห่าง1เมตร จะกลายเป็นอยู่หน้าโต๊ะทำให้ไม่สมจริงได้ ดังนั้นซอร์ฟแวร์ถึงต้องเรียนรู้กายภาพของพื้นที่จริง ถึงจะแสดงภาพ

มารู้จัก AR กันเถอะ

บล็อคนี้เป็นบล็อคที่ผู้อ่านทุกคนจะได้รู้จัก กับเทคโนโลยีที่เรียกว่า  "AR" ความหมายของ Augmented Reality คำว่า Augmented แปลว่าเพิ่มหรือเติม ส่วน Reality แปลว่าความจริง      เมื่อเอาสองคำมารวมกันแล้วความหมายก็ค่อนข้างตรงตัว นั่นก็คือ เทคโนโลยีการผสมผสานโลกเสมือน (Virtual World) เพิ่มเข้าไปในโลกจริง (Physical World) เพื่อทำให้เกิดการกลมกลืนกันมากที่สุดจนแยก ไม่ออก เช่น เราอาจจะมีถ่ายวิดีโอฉากใดฉากหนึ่งมา แล้วทำการสร้างรูปกราฟิกภาพ 3 มิติผสมลงไปในฉากวิดีโอที่เราถ่ายมาให้ดูเสมือนกับว่าภาพ 3 มิตินี้เป็นส่วนหนึ่ง ของวิดีโอจริงๆ เทคโนโลยีการผสมผสานกันนี้แหละครับที่เราเรียกว่า โลกเสมือนผสานโลกจริง เทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR คือ      เทคโนโลยีที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริงเข้ากับโลกเสมือนโดนผ่านทางอุปกรณ์ต่างๆ             อย่างกล้องถ่ายภาพ เข็มทิศ และ GPS จุดเริ่มต้นของ AR คือ ทีวี ผลการแข่งขันระหว่างนัด หรือ News ticker ด้านล่างจอของ CNN คือรูปแบบที่ง่ายที่สุดในการอธิบายความเป็นAugmented reality มันทำให้ข้อมูลที่ไม่สามารถอธิบายได้บนรูปภาพเกิดขึ้นในโลก